หลังจากออกจาก อช.ภูหินร่องกล้า มุ่งสู่ เขาค้อทางคดเคี้ยวแบบสนุก ๆ นะครับ
โดย เลี้ยวซ้าย ทล.2013 ไป อ.นครไทย - ขวาเข้า Route 12 - ขวาเข้า ทล. 2196
(ผมว่าโหดน้อยกว่าทางเชียงใหม่-ปายมาก)
ถนนหนทางดีมาก ๆ โค้งสวย
สมแล้วที่เค้าเรียก "สวิสฯเมืองไทย"
รายทางถนนในความทรงจำ


สุดท้ายผมเดินทางมาถึง "พระตำหนักเขาค้อ" ประมาณ 16.30 น.ครับ
ซึ่งที่ตั้งอยู่บนเขาย่าซึ่งเป็นเขาที่สูงที่สุดในบริเวณเขาค้อ
สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,100 เมตร
มีทางขึ้นที่ค่อนข้างลาดชัน ลดจนถึงเกียร์ 1-2 เลยครับ
แฮะ ๆ ก็เรา แรงรักษ์โลก 150 ซีซี (คนขับ+คนซ้อน+กล่องและสัมภาระรวม 20 กก.)
พื้นที่ด้านในดูแลโดยทหารนะครับ
มีบ้านพักวิวเนินเขา คืนละ 500 บาท กับ พื้นที่กางเต๊นท์ คืนละ 100 บาท/เต๊นท์

ผมปรึกษาผบ.แกมโน้มน้าวถึง วัยของเรา
(ย่าง 30กันแล้ว อีกหน่อยก้ออยากนอนสบายมากกว่านี้อีก)
ประกอบกับเราออกมาผจญภัย กันไม่ใช่เหรอ
ทำไมเราไม่กางเต๊นท์นอนอีกสักคืนล่ะ ?
แหล่มจริง ๆ คืนนี้ กางนอนเต๊นท์เดียว
เต๊นท์ ข้าง ๆ ของน้องทหาร กางเล่น ๆ แต่ไม่ได้มานอน


เนื่องจากพี่สันติได้ไปพักก่อนหน้าผมคืนนึงและได้ฝากฝังกับพี่เค้าไว้
พี่เค้าจึงดูแลพวกเราดีเป็นพิเศษ
ทั้งเปิดห้องน้ำ+น้ำอุ่นให้ใช้ + อนุญาตให้ชาร์ตแบตได้
แถมตอนเดินไปจ่ายค่ากางเต๊นท์ แกยังไม่เก็บอีกครับ
(แหม่...เส้นพี่ตินี้ใหญ่จริง ๆ)
เนื่องจากมีแต่ร้านค้าสวัสดิการปิด 2 ทุ่ม ไม่มีอาหารขาย
ขอแนะนำให้หาอาหารเตรียมไปทานข้างบนด้วยครับ

ปล. ร้านอาหารจะเปิดช่วงเดือน พ.ย.-สิ้นเดือน ม.ค.เท่านั้น
(ผมไปต้นเดือนก.พ.เห็น พวกเค้ากำลังเก็บของกลับบ้านกันอย่างเดียว....เซ็งเลย)
ตื่นเช้าเอาภาพทะเลหมอกยามเช้ามาฝากจ้า




เลยเดินเล่นถ่ายดอกไม้ ใบหญ้าไปเรื่อย ๆ



ซึ่งนอกจากการเที่ยวชมพระตำหนักภายใน และสวนดอกไม้แล้ว ยังสามารถชมวิวมุมสูงได้จากบริวณจุดชมวิวด้านข้างพระตำหนัก


สนสูงใหญ่ ทำให้นอนสบาย ลมไม่แรง


ส่วนนักท่องเที่ยวที่รักความท้าทาย ยังสามารถขึ้นชมยอดเขาย่า ได้จากทางพระตำหนักนี้ได้เช่นกัน
โดยการเดินเท้าขึ้นต่อไปยังยอดเขาย่า ระยะทางประมาณ 770 เมตร


ผมตัดสินใจไม่ขึ้นเนื่องจากเราต้องเก็บแรงไว้เดินทางกลับกรุงเทพ อีก 400 กว่าโลครับ
แดดมากแล้ว รีบเก็บเต๊นท์กันเถอะครับ

เราพากันไปเที่ยวต่อครับ อึดใจเดียวเพียง 7 กม. (ทางขึ้นเนินเขาชัน ๆ ) จากพระตำหนักเขาค้อ

เลือกแวะไปฐานอิทธิซะหน่อยนะครับ เพื่อให้เสมอภาคทั้งฝ่าย พคท. และ ฝ่ายรัฐบาล



ค่าเข้า 10 บาท/คน จร้า

ด้วยรักและคิดถึงจ่าโหน่ง เจอกันต้อนเดือนหน้าครับ

บรรยากาศภายในฐานอิทธิ




สาวล้านนาขาโหด

อนุสรณ์





เก็บวิวหน่อยนะ


ก่อนกลับแวะไหว้สมเด็จพระนเรศวรกันก่อน


หลังจากนั้นก็เกินทางออกจากเมืองเพชรบูรณ์ จนถึงบ้านราว 17.00 น.ครับ พอมีเวลาให้เหลือ ซักผ้า หาข้าวเย็นมื้อดี ๆ เป็นรางวัลจากการเดินทาง
สรุปค่าใช้จ่ายนะครับ
ระยะทาง ไป-กลับ 3 วัน 2 คืน 1,044 กม.
1. น้ำมัน
เติม โซออล์ 95 อย่างเดียว รวม 1,250 บาท
- ขาไป เดินทางเฉลี่ย 80-100 กม./ชม(ไมล์ รถ CBR150 ) ขับขี่เป็นขบวนเรียงตามลำดับ ซีซีน้อยนำหน้า ซีซีสูงไปด้านหลัง
- ขากลับ 100-110 กม./ชม(ไมล์ GPS) แก้ง่วงดี แอบร้อน แอบดำ ไม่ได้ใส่โม่ง รีบกลับบ้านก่อนง่วง
เฉลี่ย 38.4 กม./ลิตร หรือ 1.19บาท/กม.
2. ค่ากิน - ค่าเที่ยว
ประมาณ 800 บาท/คน
แถม !!!
ภาพตอนขึ้นภูทับเบิกยาวเกือบ 40 นาที
เพื่อความอิ่มเอิ่ม รายทางจนถึงยอดทับเบิกครับ
ถ้าท่านที่คันมือคันไม้อยากออกเที่ยว ใจเย็น ๆ นั่งดูไปก่อนเพลิน ๆ ก่อนนะจ๊ะ

ออกไปเที่ยวกัน ในวันที่คุณว่าง ในสังขารที่ยังไม่โรยรา และในหัวใจเสรีที่อยากจะท่องเที่ยวไป
ไปนอนแล้วครับ เจอกันอาทิตย์หน้าที่สวนผึ้งครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น